-Local-newssouthern-news

“น้องพลอย” มิสแกรนด์น่าน ประเดิมคว้า “ขวัญใจ 5 จังหวัดชายแดนใต้.” ครองมงกุฎ-ทุเรียนภูเขา

            เสร็จสิ้นไปเรียบร้อย สำหรับการประกวด มิสแกรนด์ ขวัญใจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตำแหน่งทรงเกียรติตำแหน่งแรกของเวทีการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์  2019 จัดขึ้นระหว่างการเก็บตัวที่  5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และ สตูล หลังจากสาวงามผู้เข้าประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2019 ทั้ง 77 จังหวัด ได้ร่วมทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ และ สร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชนในพื้นที่มาตลอดสัปดาห์ โดยได้รับความร่วมมือจาก ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 5 จังหวัด และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ และทัพสื่อมวลชนที่เดินทางมาร่วมงานกันแน่น หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา  จ.ยะลา รวมถึงแฟนนางงามและผู้ชมที่รับชมผ่านทาง facebook live : Miss Grand Thailand

            ทั้งนี้ การประกวดเปิดเวทีด้วยการแสดงชุด อัศจรรย์ ของนักเรียนจาก โรงเรียน ยะหาศิรยานุกูล  จากนั้น 2 พิธีกรกิตติมศักดิ์ ยุทธนา ปลื้มสำราญ ผู้บริหารสถานีวิทยุ 97.5 ยะลา และ แพม เปรมิกา พาเมล่า มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2017 กล่าวต้อนรับและเชิญประธาน พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขา.ศอ.บต กล่าวเปิดงาน จากนั้น นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานกองประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ เวทีอันดับ1ของประเทศไทย กล่าวขอบคุณ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ให้การสนับสนุนและต้อนรับผู้เข้าประกวดเป็นอย่างดียิ่ง ก่อนจะได้พบกับความสวยงามของผู้เข้าประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2019 ในชุดบานง เริ่มจาก มิสแกรนด์ ภาคใต้ ,มิสแกรนด์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ , มิสแกรนด์ภาคกลาง และ มิสแกรนด์ ภาคเหนือ ต่อด้วยชุดราตรี จากนั้นประกาศผลผู้เข้ารอบ 12 คนสุดท้าย ภาคละ  3 คน โดย ผู้เข้ารอบภาคใต้ ได้แก่ มิสแกรนด์พังงา มิสแกรนด์ภูเก็ต มิสแกรนด์สงขลา ผู้เข้ารอบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ มิสแกรนด์นครพนม มิสแกรนด์มหาสารคาม มิสแกรนด์อุบลราชธานี ผู้เข้ารอบภาคกลาง ได้แก่ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา มิสแกรนด์ชัยนาท มิสแกรนด์ระยอง และผู้เข้ารอบภาคเหนือ ได้แก่ มิสแกรนด์เชียงใหม่ มิสแกรนด์น่าน มิสแกรนด์พะเยา เพื่อตอบคำถามจากคณะกรรมการที่ว่า “การเดินทางมาเก็บตัวที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ ถ้าคุณมีเวลา 30 วินาที คุณจะบอกเล่าเรื่องใด?” ซึ่งนางงามที่เข้ารอบสามารถตอบคำถามได้อย่างฉะฉานและถูกใจกรรมการ รวมถึงกองเชียร์ สร้างความหนักใจให้กับคณะกรรมการได้ใม่น้อย

             แต่ก่อนจะได้ทราบผลการตัดสิน ฝ้าย-สุภาพร มะลิซ้อน มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2016 ผู้เชิญมงกุฎ ควีน ออฟ เมาท์เท่น ดูเรียน มูลค่า 300,000 บาท สู่เวที โดย นายณวัฒน์ ได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบมงกุฎประจำตำแหน่ง มิสแกรนด์ ขวัญใจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าได้แรงบันดาลใจและอัตลักษณ์มาจากทุเรียนภูเขา ซึ่งเป็นของดีเมืองยะลา ซึ่งผู้ได้รับตำแหน่ง นอกจากได้เป็นเจ้าของมงกุฎมูลค่า 3 แสนบาท สายสะพาย เงินสด 50,000 บาท ยังจะได้เป็นเจ้าของทุเรียนภูเขา บาย นางงามด้วย

            จากนั้นพิธีกรประกาศผู้เข้ารอบ 4 คนสุดท้าย ได้แก่ มิสแกรนด์สงขลา มิสแกรนด์นครพนม มิสแกรนด์ชัยนาท และ มิสแกรนด์น่าน เพื่อตอบคำถามจากคณะกรรมการที่ว่า “ถ้าคุณต้องลงมาอยู่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คุณจะเลือกอยู่จังหวัดอะไร และจะประกอบอาชีพอะไร เพราะเหตุใด”ซึ่งสาวงามแต่ละคนต่างใช้ไหวพริบปฏิภาณในการตอบคำถาม เรียกเสียงปรบมือจากกองเชียร์ได้หนาแน่น และแล้ววินาทีแห่งความตื่นเต้นก็มาถึง พิธีกรประกาศ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ มิสแกรนด์สงขลา น.ส.รุจิรดา ศรีพิทักษ์ รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่  มิสแกรนด์นครพนม น.ส.อารยะ ศุภฤกษ์   เหลือนางงาม 2 คนสุดท้ายคือ มิสแกรนด์น่าน  และ มิสแกรนด์ชัยนาท จับมือกันด้วยความตื่นเต้น พิธีกรประกาศผู้ได้รับตำแหน่ง มิสแกรนด์ ขวัญใจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ มิสแกรนด์น่าน น.ส.พีรชาดา ขุนรักษ์  คว้ามงกุฎ ควีน ออฟ  เมาท์เท่น ดูเรียน สายสะพาย เงินสด 50,000 บาท ไปครอง ตำแหน่งรองอันดับ 1 ตกเป็นของ มิสแกรนด์ชัยนาท น.ส.สุวิมล เสมาปรุ

            น้องพลอย เจ้าของตำแหน่ง มิสแกรนด์ ขวัญใจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เผยว่า  ดีใจมากค่ะ  เพราะสิ่งที่เราตั้งใจ ประสบความสำเร็จ ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้พลอยชนะใจกรรมการได้ คิดว่าเรื่องการตอบคำถาม เพราะพลอยเก็บทุกรายละเอียดในกิจกรรมที่เราได้ไปสัมผัสทุกอย่างมาตอบ รอบแรกตอบว่า 5 จังหวัดชายแดนใต้น่าอยู่มาก ผุ้คนน่ารัก แต่สิ่งที่ประทับใจคือแกงส้ม เพราะแกงส้มไม่ได้บ่งบอกแค่ความอร่อย แต่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ทุกอย่างของที่นี่ รสชาติที่เป็นของขาวใต้ บ่งบอกถึงวัฒนธรรรมการกินของชาวใต้ นี่คือเสน่ห์ของชาวใต้ที่ใครก็หลงใหลค่ะ  ส่วนคำถามที่2 หนูเลือกอยู่ จ.ยะลา และประกอบอาชีพสื่อมวลชน เพราะว่าเราจะได้เป็นกระบอกเสียงเล็กๆให้กับคนภายนอกได้รับรู้ว่ายะลาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองแล้วจะรู้ว่ายะลาน่าอยู่ค่ะ อยากขอบคุณพี่น้องชาวใต้และทุกๆคนที่เป็นกำลังแรงเชียร์เต็มที่มากๆค่ะ”