สภาพอากาศ

อากาศยังแปรปรวน ระวังฝน-ลูกเห็บ-ส่อแล้ง

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายสภาพอากาศในสัปดาห์นี้ว่า ในช่วงวันที่ 4-6 ก.พ.2565 บริเวณภาคเหนือจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฟ้าผ่า เกษตรกรควรระวัง อันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว สําหรับบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศเย็นถึงหนาว เกษตรกรควรดูแล รักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

ในช่วงวันที่ 7-10 ก.พ. ลมฝ่ายตะวันตกยังคงพัดปกคลุมภาคเหนือ ทําให้บริเวณภาคเหนือยังคงมีอากาศ เย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีน้ําค้างแข็งบางพื้นที่ ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกจะมีกําลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทําให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยเกิดขึ้นบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล


คําแนะนําสําหรับการเกษตร  พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์
ภาคเหนือ – ในช่วงวันที่ 4-6 ก.พ. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 7-10 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 9-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมี น้ําค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-15 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65- 75 % ความยาวนานแสงแดด 7-10 ชม.

– ในช่วงวันที่ 4-6 ก.พ.จะมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ เกษตรกรควรผูกยึดค้ำยันกิ่งไม้ผลให้มั่นคง แข็งแรง รวมทั้งไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ – ในช่วงวันที่ 5-6 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบาง แห่งทางตอนบนของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศ หนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 7-10 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10- 14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแดด 7-10 ชม.

– ในช่วงนี้จะมีอากาศเย็นถึงหนาว เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ปีกควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้ เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย สําหรับในช่วงวันที่ 7-10 ก.พ. ควรระมัดระวังใน การสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก


ภาคกลาง – ในช่วงวันที่ 5-6 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 7-10 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม.

– ระยะนี้จะมีอากาศเย็นในตอนเช้า เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ําในบ่อเลี้ยงควรให้ปริมาณอาหารอย่างเหมาะสม เนื่องจาก อากาศเย็นจะทําให้สัตว์น้ำกินอาหารได้น้อยลง และเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นในช่วงสายจึงให้อาหารเพิ่มเติม สําหรับพื้นที่ การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม และวางแผนใช้น้ําทางด้านการเกษตรให้มี ประสิทธิภาพ


ภาคตะวันออก – ในช่วงวันที่ 5-6 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา เซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 7-10 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะ สูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา เซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้น สัมพัทธ์70-80 % ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม.

– ในช่วงวันที่ 7-10 ก.พ. จะมีฝนบางแห่ง เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง นอกจากนี้ควรระวัง การระบาดของศัตรูพืชจําพวกหนอนในไม้ผลและพืชผัก


ภาคใต้ – ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ. ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝน ฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมี คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ในช่วงวันที่ 8-10 ก.พ. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % ความยาวนานแสงแดด5-8 ชม.

ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

– ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งตลอดช่วง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจําพวกหนอนในพืชไร่ไม้ผลและพืชผัก สำหรับในบางพื้นที่ซึ่งมีฝนตกติดต่อกันทําให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังโรคพืชที่ เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก