สภาพอากาศ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า (5-11 มกราคม พ.ศ.2565)

เมื่อวันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2565 กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า (5 – 11 มกราคม พ.ศ. 2565) ดังนี้

การคาดหมายลักษณะอากาศ บริวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบนตลอดช่วง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณตังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า โตยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-14 องศาเซลเซียส และบริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-16 องศาเซลเซียส

ในช่วงวันที่ 5-11 ม.ค. 65 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค
คำเตือน ในช่วงวันที่ 5-11 ม.ค.65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย

คำแนะนำสำหรับการเกษตร (พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์)

ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 13-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว10-15 กม/ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 6-8 ชม.

ระยะนี้มีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ รวมทั้งควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังในขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก นอกจากนี้เกษตรกรควรหลีกเสี่ยงการตากผลผลิตไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกขึ้นเสียหาย เนื่องจากหมอกและน้ำค้างได้


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า ตลอดช่วงอุณหภูมิต่ำสุด 13-20 องศาเซลเชียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม/ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 6-8 ชม.

ระยะนี้มีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า เกษตรกรควรระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผลและพืผักต่างๆ โดยเฉพาะโรคราน้ำค้างในพืชตระกูลแตง เป็นต้น เนื่องจากระยะนี้ความชื้นในดินมีน้อย เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสม รวมทั้งควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชหรือโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือโช้ทางการเกษตร เพื่อชะลอการระเหยของน้ำบริเวณผิวดินและการรักษาความชื้นในดิน


ภาคกลาง มีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม/ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม.

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า เกษตรกรควรระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆโดยเฉพาะโรคราดำในมะม่วง สำหรับเกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรวางแผนการใช้น้ำที่กักเก็บไว้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางการเกษตรตลอดช่วงแล้ง รวมทั้งควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต


ภาคตะวันออก มีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม/ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ความขึ้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแคด 6-9 ชม.

ระยะนี้อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า เกษตรกรควรระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคราดำในมะม่วง ซึ่งอยู่ในระยะช่อดอกและผลอ่อน ทำให้การติดดอกออกผลของมะม่วงลดลง ส่วนในตอนกลางวันมีแดดจัด ทำให้ปริมาณการระเหยของน้ำมีมาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชหรือโคนต้นพืช เพื่อชะลอการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน และเป็นเจริญเติบโตการรักษาความชื้นภายในดิน รวมทั้งควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต


ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม/ชม. คลื่นสูงประมาณ 1 มตร และตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม/ชม. คลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % ความยาวนานแสงแดด 5-7 ขม.

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % ความยาวนานแสงแดด 5-8 ชม.

ระยะนี้มีฝนฟ้าคะนองในบางพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรระวังศัตรูพืชจำพวกหนอนในไม้ผลและพืชผักต่างๆ ไว้ด้วย ส่วนทางตอนบนของภ าค มีอากาศเย็นและแห้ง เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกและบริเวณโคนตันพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น เพื่อชะลอการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน และรักษาความชื้นในดิน รวมทั้งควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต