+Economics

เดินทางอุ่นใจ!อาชีวะ จับมือ ปตท. ตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ ฟรี 25 รายการ

            สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมกับ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) เปิดโครงการตรวจเช็คเครื่องยนต์เพื่อประหยัดพลังงาน ประจำปี 2562 (PTT Station Engine Tune Up 2019) ให้บริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ 25 รายการ ฟรีไม่คิดค่าแรง เริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ถึง 5 เมษายน  2562 เวลา 09.00-17.00 น. ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. บนถนนสายหลัก 40 ศูนย์ในพื้นที่ 29 จังหวัด เตรียมพร้อมรองรับการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์

            ดร.สาโรจน์  ขอจ่วนเตี๋ยว ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาช่างอุตสาหกรรม กล่าวว่า  โครงการตรวจเช็คเครื่องยนต์เพื่อประหยัดพลังงาน เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 เป็นโครงการที่ทีมครูนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาออกให้บริการตรวจสภาพรถยนต์ฟรีแก่ประชาชน โดยใช้ช่วงเวลาว่างจากการปิดภาคเรียนให้เกิดประโยชน์แก่สังคมและจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น เพื่อสนองนโยบายรัฐในการรณรงค์สร้างจิตสำนึก ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการประหยัดพลังงาน เพิ่มความปลอดภัย ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ตลอดจนเป็นการฝึกทักษะความชำนาญ และสร้างจิตอาสาให้นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา นำความรู้ด้านวิชาชีพไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม โดยในปี 2562 นี้ตั้งเป้าบริการได้ไม่น้อยกว่า 143,000 คัน โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดส่งทีม 40 ทีม ประกอบด้วยครู นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา รวม 280 คน ประจำสถานีบริหารน้ำมัน ปตท. สถานีละ1 ทีม (ทีมละ 7 คน) พร้อมด้วยอุปกรณ์ด้านช่างยนต์ ให้บริการตรวจสภาพรถยนต์แก่ประชาชน 25 รายการ ณ สถานีบริการน้ำมันของ ปตท. จำนวน 40 แห่ง ในพื้นที่ 29 จังหวัด นอกจากนี้ยังสามารถรับบริการเพิ่มเติมตรวจเช็คสภาพมาตรฐานความปลอดภัย 15 ขั้นตอน โดยช่างของศูนย์ได้ที่ศูนย์บริการ โปรเช็ค (ProCheck) จำนวน 57 แห่ง และตรวจเช็คเครื่องยนต์ จำนวน 30 รายการโดยช่างของศูนย์ได้ที่ฟิต ออโต้ (Fit Auto) จำนวน 42 แห่ง  โดยสามารถดูรายละเอียดโครงการได้ที่ www.pttor.com 

            ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2561 มีประชาชนนำรถยนต์ ผ่านการตรวจสภาพเป็นประจำทุก 6 เดือน จำนวน 143,280 คัน สามารถลดการใช้น้ำมันได้ถึงร้อยละ 5 โดยคำนวณจากแต่ละคันใช้น้ำมันเฉลี่ยวันละ 4 ลิตร ประหยัดปีละกว่า 10,459,440 ลิตร คิดเป็นการประหยัดเงินตราต่างประเทศมากกว่า 292,864,320 บาท (ประมาณการราคาน้ำมันลิตรละ 28 บาท)  นอกจากนั้น โครงการนี้จะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ถึง 22,592,350.4 กิโลกรัม/ปี หรือ 22,592 ตัน/ปี (ประหยัดน้ำมัน 1 ลิตร สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ ได้ 2.16 กิโลกรัม)