-ข่าวพระราชสำนัก

พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ นำคณะอนุกก.ฯ ติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริใน จ.นครศรีธรรมราช

พล.อ. กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคใต้ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฯ เดินทางมาติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 25-26 ธันวาคม 2562 โดยเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 25 ธ.ค.องคมนตรีและคณะ เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในเขตพื้นที่ภาคใต้ เพื่อรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากผู้แทนหน่วยงานต่างๆ โดยผู้แทนสำนักงาน กปร. กล่าวรายงานผลการดำเนินงานการขับเคลื่อนโครงการฯ ในเขตพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วจำนวน 7 โครงการ และอยู่ระหว่างการขับเคลื่อนโครงการ จำนวน 7 โครงการ ซึ่งผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคใต้ นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้พิจารณาแนวทางการการขับเคลื่อนโครงการในระยะต่อไป เพื่อให้โครงการสามารถดำเนินการขับเคลื่อนไปได้ตามพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อสร้างประโยชน์สุขให้กับราษฎรต่อไป นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้ติดตามผลการดำเนินงานการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง รวมทั้งแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟไหม้พื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง

ต่อมาเวลา 13.30 น. องคมนตรีและคณะฯ เดินทางไปยังโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ณ บริเวณประตูระบายน้ำคลองท่าเรือ – หัวตรุด เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานในพื้นที่โครงการฯ พร้อมพบปะราษฎรที่เสียสละที่ดินในการก่อสร้างโครงการ และผู้ได้รับประโยชน์

โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการฯ ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราช ทานไว้ เพื่อแก้ไขและฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย โดยเน้นเรื่องการจัดสร้างและการพัฒนาแหล่งน้ำอย่างเป็นระบบเพื่อการเก็บกักน้ำกับการระบายน้ำออกสู่ทะเล โดยให้ใช้รูปแบบโครงการระบายน้ำพรุบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เป็นต้นแบบในการดำเนินงาน ปัจจุบันกรมชลประทานได้ดำเนินการสนองพระราชดำริ ก่อสร้างและปรับปรุงคลองระบายน้ำเดิมเพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถระบายน้ำได้มากขึ้น โดยปรับปรุงคลองวังวัว พร้อมอาคารประกอบ เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้ 850 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปรับปรุงคลองคลองท่าเรือ – หัวตรุด พร้อมอาคารประกอบเพื่อให้สามารถระบายน้ำได้ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมทั้งจะดำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้ำ เพื่อควบคุมการระบายน้ำ จำนวน 7 แห่ง และขุดคลองระบายน้ำสายใหม่ จำนวน 3 สาย ในระยะต่อไป โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะสามารถบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขตเมืองนครศรีธรรมราชและลดพื้นที่น้ำท่วมได้ประมาณร้อยละ 90 ครอบคลุมพื้นที่ 12 ตำบล ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียง คิดเป็นครัวเรือนที่ได้รับประโยชน์ 32,253 ครัวเรือน อีกทั้งยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำเลี่ยงเมือง และกักเก็บน้ำต้นทุนไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภคและการเกษตรในฤดูแล้งได้ถึง 5.5 ล้านลูกบาศก์เมตร

ต่อมาในวันที่ 26 ธ.ค.เวลา 10.00 น. พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคใต้ พร้อมคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการฯ โดยรับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานจากผู้แทนกรมชลปประทาน

โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานไว้ตั้งแต่ปี 2523 เพื่อช่วยเหลือราษฎรให้สามารถทำการเพาะปลูกได้ตลอดปี และเป็นหนึ่งในโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธานที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด ซึ่งจากการติดตามและขับเคลื่อนของคณะอนุกรรมการฯ ที่ผ่านมาทำให้สามารถขับเคลื่อนโครงการไปได้ โดยในปีงบประมาณ 2561 สำนักงาน กปร.ได้พิจารณาสนับสนุนงบประมาณในการปรับสภาพพื้นที่ ก่อสร้างถนน และที่ทำการอาคารบ้านพักและระบบไฟฟ้า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการมีผลการดำเนินงานทั้งโครงการฯ ร้อยละ 11.13 ซึ่งเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จก็สามารถส่งน้ำสนับสนุนเพื่อการอุปโภคบริโภคให้กับราษฎรในบริเวณตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ประมาณ 1,887 ครัวเรือน ราษฎร 6,123 คน และพื้นที่การเกษตร ประมาณ 22,000 ไร่ ได้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี รวมทั้งสามารถบรรเทาภัยแล้ง และบรรเทาอุทกภัยให้กับราษฎรในพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้ราษฎรมีรายได้ มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

โอกาสนี้องคมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานและพบปะราษฎรผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการ