-environmentforestข่าวแดนอิสาน

เจ้าหน้าที่ ขสป.พนมดงรัก จับกุมชาวกัมพูชา พร้อมไม้พะยูง หลังกล้อง NCAPS จับภาพชัดเจน

นายบัญชา ประเสริฐศรี หน.ขสป.พนมดงรัก เปิดเผยว่า ศูนย์จัดการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรักที่ 4 (ซำปิกา-ภูพะยอม) ได้เข้าติดตั้งกล้อง NCAPS เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 บริเวณป่าพนมสวาย

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 19.18 น. ของวันที่ 22 ธันวาคม 2564 กล้อง NCAPS ได้ตรวจจับภาพกลุ่มบุคคลและส่งสัญญาณภาพถ่ายพร้อมคลิปวิดีโอกลับมายัง Application Spartan

นางสาวปิ่นปินัทธ์ หาสนาม นักวิชาการป่าไม้ปฎิบัติการประสานกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อวางแผนเข้าตรวจสอบดักซุ่มและติดตามกลุ่มบุคคลที่ปรากฏในภาพถ่ายและคลิปวิดีโอดังกล่าวที่ลักลอบเข้ามาทำไม้มีค่าในพื้นที่ป่าพนมสวาย

เวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2564 ชุดสายตรวจภูพะยอมพร้อมด้วยสายตรวจส่วนกลางเข้าพื้นที่ตรวจสอบและดักซุ่ม เมื่อมาถึงบริเวณป่าพนมสวาย พบร่องรอยถากไม้ลักษณะสดใหม่

จึงเฝ้าสังเกตการณ์ตลอดทั้งคืน เพื่อร่วมกันวางแผนเข้าจับกุมเมื่อเวลารุ่งเช้าของวันที่ 23 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 07.00 น. เนื่องสภาพพื้นที่รกทึบ และเป็นหน้าผาสูงชัน ไม่สามารถเข้าจับกุมในเวลากลางคืนได้

ขณะเข้าจับกุมตรวจสอบพบกลุ่มชาย จำนวน 5 คน ทราบเป็นชาวกัมพูชา คณะเจ้าหน้าที่สามารถวิ่งไล่ติดตามตัวได้ จำนวน 2 คน ทราบชื่อต่อมา คือ นายจัน เจรียน อายุ 49 ปี ราษฎรชาวกัมพูชา และนายมัล พอล อายุ 56 ปี ราษฎรชาวกัมพูชา อาศัยอยู่บ้านแซละออ ตำบลบะลุง อำเภอตะเปียงปราสาท จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศราชอาณาจักรกัมพูชา

ยึดของกลาง จำนวน 5 รายการ ซึ่งตรวจพบในที่เกิดเหตุ บริเวณป่าพนมสวาย พื้นที่รับผิดชอบหน่วยพิทักษ์ป่าภูพะยอม เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ทับซ้อนเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าฝั่งขวาห้วยศาลา” ท้องที่ตำบลบักดอง อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ พบไม้พะยูงแปรรูปถากกลม จำนวน 19 ท่อน ปริมาตรรวม 0.257 ลูกบากศ์เมตร มูลค่าความเสียต่อรัฐ 128,500 บาท และอุปกรณ์อื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง

การกระทำดังกล่าวมีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐาน “เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ” ตาม มาตรา 53 และ“ฐาน ร่วมกันเก็บหานำออกไป กระทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้ หรือทรัพยากรอื่น หรือกระทำการอื่นใด อันส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศ หรือความหลากหลายทางชีวภาพ ” ตาม มาตรา 55 (5)

ความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ฐาน “ร่วมกันทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม มาตรา 14 และผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2559 ฐาน “ร่วมกับพวกกระทำด้วยประการใด ๆ โดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลายหรือเป็นเหตุให้เกิดการทำลาย หรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายสูญหายหรือเสียไปนั้น ตาม มาตรา 26/4 มาตรา 15 ฐาน “ทำไม้หรือเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”

ความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ฐาน “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม มาตรา 11 และฐาน “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม ” มาตรา 48

และความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ฐาน “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่เข้าตามช่องทาง ด่านตรวจ เขตท่า สถานีที่กำหนดไว้”และมาตรา 81 ฐาน “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม มาตรา 11

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดทำเรื่องราวและนำผู้ต้องหาส่งสถานีตำรวจภูธรขุนหาญ เพื่อดำเนินการตาม ระเบียบกฏหมายต่อไป โดยได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัส 2019 ด้วยแล้ว

#รู้จากข่าว #มอดไม้ #พะยูง #พนมดงรัก #พนมสวาย #ขุนหาญ #กรมอุทยานแห่งชาติฯ #กรมป่าไม้ #ป่าสงวนแห่งชาติ