-Local-newssouthern-newsชุมชน-สังคมพม.

พม.หนึ่งเดียวจังหวัดตรัง พร้อมเครือข่ายช่วยเหลือครอบครัวตามข่าว “แม่เลี้ยงเดี่ยวดูแลลูก 5 คน”

ตรัง (16ก.พ.2567) พม.หนึ่งเดียว จังหวัดตรัง นำโดย นายนิตินัย อุทัยรังษี หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมด้วย นางสาวเจนเนตร พิทักษ์วงศ์ นักสังคมสงเคราะห์ และทีมงานลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลในควน พระอาจารย์วัดห้วยศอและวัดช่องหาย เยี่ยมบ้านเช่าในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.เอ (นามสมมติ) กรณีออกสื่อออนไลน์ “ชีวิตสุดรันทด แม่เลี้ยงเดี่ยวดูแลลูก 5 คน” จากการสอบข้อเท็จจริง ปรากฎรายละเอียดดังนี้

ผู้ร้อง คือ นางสาวเอ (นามสมมติ) ประสบปัญหาความเดือดร้อนและว่างงานจริง แต่ไม่ได้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวตามข่าว เนื่องจากปัจจุบันยังอาศัยอยู่ร่วมกับสามี คือ นายบี (นามสมมติ) มีสมาชิกในครอบครัวรวมทัังสิ้น 9 คน ดังนี้

1)ผู้ร้อง คือ นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ปัจจุบันว่างงานมาเป็นระยะเวลาประมาณ 5 เดือน

2)สามีใหม่ คือ นายบี (นามสมมติ) อายุ 27 ปี มีบุตรด้วยกัน 1 คน ประกอบอาชีพรับจ้างเลื่อยไม้ รายได้ไม่แน่นอนประมาณสัปดาห์ละ 500- 600 บาท

3)บุตรผู้ร้อง 4 คน (ต่างบิดากันทั้ง 4 คน) บุตรสาวคนโตสุด อายุ 15 ปี ไม่ได้เรียนหนังสือ (สมาธิสั้น) บุตรสาวคนที่ 2 อายุ 12 ปี เรียนชั้น ป.6 บุตรสาวคนที่ 3 อายุ 10 ปี เรียนชั้น ป.4 และบุตรชายคนที่ 4 อายุ 9 ปี เรียนชั้น ป.2 (เป็นบุตรกับสามีคือนายบีคนที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน)

4)หลานชายของผู้ร้อง 1 คน อายุ 17 ปี เป็นบุตรของพี่สาวผู้ร้อง ซึ่งไปทำงานที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ส่งเงินให้หลานบ้างเป็นบางครั้ง ตอนนี้หลานชายกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.5

5)น้องสาว 2 คน อายุ 15 ปี และ 13 ปี (สมาธิสั้น) ซึ่งเมื่อปี 2564 บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง ได้นำส่งเข้ารับการอุปการะในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงจังหวัดปัตตานี โดยได้เรียนหนังสือ ต่อมาในปี 2566 ผู้ร้องแสดงความประสงค์ขอรับน้องสาวกลับมาอยู่ในความดูแลของตนเอง โดยผู้ร้องแจ้งว่าตนเองและครอบครัวมีความพร้อมในการดูแลน้องสาวทั้ง 2 ปัจจุบันเด็กทั้งสองคนไม่ได้เรียนหนังสือ ตั้งแต่ออกมาจากสถานสงเคราะห์

นอกเหนือจากการดูแลช่วยเหลือครอบครัวผู้ร้องโดยการนำน้องสาวของผู้ร้องเข้ามาอยู่ในความอุปการะดูแลของรัฐจำนวน 2 คน ระหว่างปี 2564-2566 แล้ว เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรังได้มาเยี่ยมบ้าน และพิจารณาช่วยเหลือโดยให้คำแนะนำในการส่งสมาชิกในครอบครัวที่เป็นเด็ก ไปศึกษาในโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง จะช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ฯ และรับเป็นผู้ปกครองของเด็กขณะที่กำลังศึกษา พร้อมกับไปรับ-ส่งเด็ก ในช่วงระหว่างเปิดและปิดภาคการศึกษา โดยแจ้งผู้ประสบปัญหาว่า ครอบครัวสามารถรับเด็กไปอยู่ในความดูแลระหว่างโรงเรียนปิดภาคเรียนได้ : ผู้ร้องก็ปฏิเสธการช่วยเหลือ ทั้งนี้ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน นอกจากนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้สนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับครอบครัวของผู้ประสบปัญหา เช่น เสื้อผ้าสำหรับเด็กและผู้ใหญ่, ข้าวสาร, อาหารแห้ง, เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันอยู่เป็นระยะๆ

สำหรับในครั้งนี้ พม.หนึ่งเดียวจังหวัดตรังได้ให้คำแนะนำพร้อมวางแผนร่วมกับครอบครัวเรื่องการศึกษาของสมาชิกในครอบครัวที่เป็นเด็ก จำนวน 3 คน เกี่ยวกับการศึกษาต่อโรงเรียนประจำสถาบันเพาะกล้าคุณธรรม กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วางแผนการรักษาโรคสมาธิสั้นของสมาชิกในครอบครัวที่เป็นเด็กอายุ 13 ปี พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นก่อน หลังจากนี้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง จะช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัวตามระเบียบ ประสานสำนักงานจัดหางานจังหวัดตรังดูแลหางานที่เหมาะสมให้ผู้ร้องและประสานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นติดตามความเป็นอยู่เป็นระยะๆ ต่อไป

พม.หนึ่งเดียวจังหวัดตรัง พร้อมดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน หากประสบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนทางสังคมทุกกรณี สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือที่เบอร์โทรสายด่วน 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือหากตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เช่น ถูกทำร้ายร่างกาย/ข่มขู่ว่าจะทำร้าย ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือพบเห็นผู้คลุ้มคลั่งก่อให้เกิดเหตุร้าย และการมั่วสุมก่อให้เกิดเหตุร้ายสามารถกดแจ้งเหตุผ่านไลน์ ESS เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไประงับเหตุได้อย่างทันท่วงทีด้วยระบบ Line OA ที่ช่วยสร้างความปลอดภัยแก่ตัวเองและชุมชนเพียงแชร์ให้เพื่อน แอดไลน์ @esshelpme หรือคลิกลิงก์ https://lin.ee/GetbF8D ได้