วันอาทิตย์, ตุลาคม 6, 2024
Latest:
-Healthy

ร้อนนี้..ระวังเด็กจมน้ำ

กรมควบคุมโรคเตือนภัยเด็กจมน้ำ ปีนี้ ผ่านมา 79 วัน ตายแล้ว 32 ราย แนะชุมชนเฝ้าระวัง 4 ข้อ ใช้ 3 มาตรการหากพบคนตกน้ำ


   เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2562 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค ถึงสถานการณ์การจมน้ำของไทยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2562 วันที่1 ม.ค.-20 มี.ค. ได้รับแจ้งเหตุคนจมน้ำ 18 เหตุการณ์ เสียชีวิต 32 ราย บาดเจ็บ 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กวัยเรียน พบสูงสุดในกลุ่มอายุ 5-9 ปี จำนวน 14 ราย รองลงมาคืออายุ 10-14 ปี จำนวน 11 ราย สถานที่เกิดเหตุเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติมากที่สุด ร้อยละ 69 นอกจากนี้ยังพบว่า เหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตตั้งแต่ 2 รายขึ้นไป มีมากถึง 11 เหตุการณ์ เสียชีวิต 25 ราย โดยในช่วงปิดเทอมของปีนี้ (1-20 มี.ค. 62) มีรายงานเหตุการณ์จมน้ำแล้ว 4 เหตุการณ์ เสียชีวิตทั้งหมด 7 ราย โดยเกือบทั้งหมดเป็นกลุ่มเด็กวัยเรียน อายุ 6-14 ปี
     อธิบดี คร.กล่าวอีกว่า การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสพบเหตุการณ์จมน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นฤดูร้อนและอยู่ในช่วงปิดเทอม เด็กๆ มักชวนกันไปเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติ จึงอาจมีเหตุการณ์ที่เด็กตกน้ำหรือจมน้ำเสียชีวิตได้
     นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่าขอเตือนผู้ปกครองว่าในช่วงนี้ให้ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้เด็กชวนกันไปเล่นน้ำกันเองตามลำพัง และขอให้ชุมชนร่วมดำเนินการ ดังนี้ 1.สำรวจแหล่งน้ำเสี่ยงในชุมชน 2.เฝ้าระวังและแจ้งเตือน เช่น ประกาศเสียงตามสาย ตักเตือนเมื่อเห็นเด็กเล่นน้ำตามลำพัง 3.จัดการแหล่งน้ำให้ปลอดภัย เช่น สร้างรั้ว ติดป้ายคำเตือน ให้มีอุปกรณ์ช่วยคนตกน้ำไว้บริเวณแหล่งน้ำเสี่ยง เช่น ถังแกลลอนเปล่าผูกเชือก ขวดน้ำพลาสติกเปล่า และไม้ เป็นต้น และ 4.สอนให้เด็กรู้จักแหล่งน้ำเสี่ยงและอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น

     “ที่สำคัญหากพบเห็นคนตกน้ำ ไม่ควรกระโดดลงไปช่วย เพราะอาจจมน้ำพร้อมกันได้ แต่ขอให้ช่วยด้วยการใช้มาตรการ “ตะโกน โยน ยื่น” ได้แก่ 1.ตะโกน คือ เรียกให้ผู้ใหญ่มาช่วยและโทรแจ้งทีมแพทย์กู้ชีพ 1669 2.โยนอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวช่วยคนตกน้ำเกาะจับพยุงตัว เช่น ถังแกลลอนพลาสติกเปล่า หรือวัสดุที่ลอยน้ำได้โดยโยนครั้งละหลายๆ ชิ้น และ 3.ยื่นอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวให้คนตกน้ำจับ เช่น ไม้ เสื้อ ผ้าขาวม้า ให้คนตกน้ำจับและดึงขึ้นมาจากน้ำ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422” อธิบดี คร.กล่าว