+รอบกรุง

คร. สนับสนุนกรมธนารักษ์ในการจัดเก็บรายได้-ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับภาครัฐ

            (กทม.)นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้รับมอบหมายจากนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้ร่วมหารือกับนายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เรื่องการใช้ประโยชน์และการจัดเก็บรายได้ในที่ราชพัสดุ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ณ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง  เนื่องด้วยกรมควบคุมโรคได้ครอบครองและใช้ประโยชน์บนที่ราชพัสดุในการก่อสร้างอาคารสำนักงาน บ้านพักเจ้าหน้าที่ และนำไปจัดสรรพื้นที่เป็นนิคมเพื่อที่อยู่อาศัยและทำการเกษตรให้กับผู้ป่วย โรคเรื้อนสู่ชุมชน เป็นต้น รวมทั้งมีที่ดินที่มีผู้บริจาคให้แก่กรมควบคุมโรคเพื่อนำไปจัดหาประโยชน์และให้นำรายได้ไปใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ซึ่งการใช้ประโยชน์และการจัดเก็บรายได้ต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 นั้น

            นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้มีการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ราชพัสดุ รวมทั้งที่ดินที่ได้รับการบริจาค โดยยึดถือและปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ที่ผ่านมากรมธนารักษ์ได้ให้ความร่วมมือกับกรมควบคุมโรคโดยการนำอาคารราชพัสดุบางแห่งที่กรมควบคุมโรคครอบครองอยู่ให้ประชาชนทั่วไปเช่า เพื่อส่งรายได้ให้กรมควบคุมโรคนำมาช่วยเหลือผู้ป่วยและญาติ รวมทั้งจัดเก็บรายได้เข้าสู่ภาครัฐ แต่พบว่าผู้เช่าบางรายกลับนำที่ดินหรือที่อยู่อาศัยไปให้ผู้อื่นเช่าช่วงอีกทอดหนึ่ง โดยเรียกเก็บค่าเช่าที่แพงกว่าอัตราค่าเช่าที่กรมธนารักษ์กำหนดหลายเท่า

            นายแพทย์ขจรศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น ร่วมกับสภาพการณ์ปัจจุบันแล้ว กรมควบคุมโรคจึงสนับสนุนกรมธนารักษ์ในการจัดเก็บรายได้เข้าแผ่นดิน โดยจะร่วมสำรวจ จัดเก็บรายได้ และกระตุ้นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับภาครัฐและประชาชน รวมทั้งเห็นควรให้กรมธนารักษ์พิจารณาอัตราค่าเช่าในการต่อสัญญาเช่าอาคารราชพัสดุให้ใกล้เคียงกับสภาพการณ์ปัจจุบัน โดยพิจารณาถึงการจัดหาประโยชน์ในที่ราชพัสดุซึ่งหน่วยงานของรัฐได้รับบริจาคมาในลักษณะเดียวกันกับกรณีของกรมควบคุมโรคด้วย เพื่อให้การบริหารจัดการและการจัดหาประโยชน์เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อภาครัฐ ตรงตามวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ผู้ป่วย และประชาชนส่วนรวมต่อไป ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422