รฟท.ลงนามจ้างAIT พัฒนาระบบจำหน่าวยตั๋ว-สำรองที่นั่ง
กทม.(23 ธันวาคม 2562) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมปฏิบัติการ ชั้น 3 ตึกบัญชาการรถไฟเขตปทุมวัน กรุงเทพฯ การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดพิธีลงนามสัญญาโครงการจ้างพัฒนาระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่ง (D – Ticket) ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยนายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กับ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) โดยนายอภิชัย นิมจิรวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและการตลาด ร่วมลงนามในสัญญา พร้อมผู้บริหารทั้งสองหน่วยงานร่วมเป็นสักขีพยาน
นายวรวุฒิ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการรถไฟฯ เป็นผู้ให้บริการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าทางรถไฟมีสถานีให้บริการทั้งหมด 444 สถานี ใน 47 จังหวัดทั่วประเทศ โดยได้ติดตั้งระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่งของการรถไฟฯ เพื่อให้บริการออกตั๋วโดยสารด้วยระบบคอมพิวเตอร์แก่ผู้โดยสาร ในระบบ STARS-2 (Seat Ticketing and Reservation System Stage 2) เป็นระบบจองและจำหน่ายตั๋วที่นั่งรถโดยสารออนไลน์ โดยการรถไฟฯ ได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนดำเนินการ 20 ปี (พ.ศ. 2543 – 2563) ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาจ้างในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2563 ในขณะเดียวกันระบบจำหน่ายตั๋วโดยสารปัจจุบันได้มีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ไม่สามารถรองรับระบบจำหน่ายตั๋วด้านดิจิทัลได้
ดังนั้น เพื่อให้การบริการประชาชนในการสำรองที่นั่งและจำหน่ายตั๋วโดยสารเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สะดวก รวดเร็ว การรถไฟฯ จึงได้จัดหาบริษัทเอกชนดำเนินการโครงการจ้างพัฒนาระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่ง (D – Ticket) ของการรถไฟฯ หรือการจำหน่ายตั๋วด้วยระบบดิจิทัล ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ปรากฎว่ามีผู้ประกอบการซื้อเอกสารจำนวน 7 ราย ประกอบด้วย
- บริษัท ซัมมิท คอมพิวเตอร์ จำกัด
- บริษัท เอ พี โฟร์ เทคโนโลยี จำกัด
- บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด
- บริษัท บางกอก เพย์เมนต์ โซลูชันส์ จำกัด
- บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)
- บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน)
เมื่อสิ้นสุดการเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ได้มีผู้ประกอบการยื่นเสนอราคาพร้อมเอกสารหลักฐานการเสนอราคา จำนวน 2 ราย คือ 1. บริษัท ซัมมิท คอมพิวเตอร์ จำกัด และ 2. บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ปรากฏว่า บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ได้เสนอราคาต่ำสุด จึงได้เป็นผู้ชนะการประกวดราคาโครงการดังกล่าว โดยได้เสนอราคาเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 920,000,000.- บาท (เก้าร้อยยี่สิบล้านบาทถ้วน)
นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า การจำหน่ายตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่ง (D – Ticket) ของการรถไฟฯจะเป็นระบบซื้อตั๋วโดยสารผ่านช่องทางดิจิทัลต่างๆ ซึ่งหลังจากการติดตั้งระบบแล้วจะสามารถให้บริการจำหน่ายตั๋วโดยสาร และสำรองที่นั่งได้ทุกช่องทาง ทั้งจำหน่ายภายในสถานี ซื้อผ่านออนไลน์ ซื้อผ่านโมบายแอปพลิเคชัน รองรับการทำงานร่วมกับ QR Code รวมทั้งผู้โดยสารขึ้นระหว่างสถานีได้ด้วย
ส่วนระบบการชำระเงินผู้โดยสารสามารถชำระค่าโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ โดยจะต้องดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นชื่อ D-ticket สมัครสมาชิกและยืนยันข้อมูล จากนั้นจะสามารถดำเนินการจองตั๋วและชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารออนไลน์ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยจะได้รับรหัสยืนยันและคิวอาร์โค้ด เพื่อแสดงข้อมูลการเดินทาง รวมทั้งระบบดังกล่าวยังรองรับระบบการจองตั๋วรูปแบบอื่น ทั้งการซื้อตั๋วออนไลน์ผ่านสถานีทั่วประเทศ การซื้อผ่าน Call center 1690 โดยการแจ้งรายละเอียดการเดินทางแก่เจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นโดยผู้โดยสารจะได้รับรหัสยืนยัน เพื่อนำรหัสไปออกตั๋วที่สถานีพร้อมชำระเงินภายใน 24 ชั่วโมง โดยสามารถชำระเป็นเงินสด หรือชำระผ่านบัญชีธนาคารออนไลน์ได้ทันที ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการจำหน่ายตั๋วโดยสารระบบดังกล่าวได้ภายในปี 2564