-Healthy

รพ.กรุงเทพ พร้อมรับมือผู้บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุฉุกเฉิน ในทุกช่วงเทศกาล

จากข้อมูลของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่าจํานวนครั้งอุบัติเหตุสะสม ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2560 – 3 มกราคม 2561 มีทั้งหมด 3,841 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิต จํานวน 423 ราย ซึ่งลดลงกว่าปี 2560 คิดเป็นร้อยละ 11.51 ซึ่งจากการศึกษาระยะเวลา และสาเหตุของการเสียชีวิตในผู้บาดเจ็บพบว่า ร้อยละ 50 ของผู้บาดเจ็บจะเสียชีวิตภายในชั่วโมงแรก ซึ่งการป้องกันอุบัติเหตุ การดูแล ณ ที่เกิดเหตุ การออกแบบพาหนะที่ปลอดภัย ตลอดจนการนำส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันการเสียชีวิต ในขณะที่ผู้บาดเจ็บอีกร้อยละ 30 จะเสียชีวิตภายใน 24 ชม.แรก และอีกร้อยละ 20 จะเสียชีวิตในหลายวันต่อมา ผู้บาดเจ็บบางรายที่มีการบาดเจ็บที่รุนแรงอาจต้องได้รับการส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่มีศักยภาพสูง เพื่อการตรวจวินิจฉัย และการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งความรวดเร็ว และประสิทธิภาพในการส่งต่อนั้นเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการเสียชีวิต และทุพพลภาพของผู้บาดเจ็บ

นพ.เอกกิตติ์ สุรการ ผู้อำนวยการศูนย์อุบัติเหตุกรุงเทพ รพ.กรุงเทพ กล่าวว่า ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลกรุงเทพได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพในการประสานงานส่งต่อ และเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ จึงได้นำมาตรฐาน CAMTS (Commission on Accreditation of Medical Transport Systems) ของประเทศสหรัฐอเมริกา มาใช้เป็นแนวทางในการกำหนดมาตรฐานของบุคลากร รถพยาบาล และอากาศยานพยาบาล ตลอดจนมาตรฐานการส่งต่อ และดูแลรักษาผู้ป่วยระหว่างเคลื่อนย้าย โดยได้รับการรับรอง มาตรฐานการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางบกและทางอากาศ จากสหรัฐอเมริกา CAMTS เป็นครั้งแรกในปี 2015 และมาตรฐาน CAMTS Global ในปี 2018**

“ความปลอดภัยของผู้ป่วย บุคลากร และสาธารณะ” ถือเป็นเป้าหมายที่สำคัญสูงสุดในการเคลื่อนย้ายส่งต่อระหว่างสถานพยาบาล นับตั้งแต่การรับข้อมูล จนกระทั่งการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยมายังโรงพยาบาล BDMS Medevac Center ศูนย์เคลื่อนย้ายผู้ป่วยบีดีเอ็มเอส มีทีมรับแจ้งเหตุฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งประกอบไปด้วยแพทย์อำนวยการการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญในการประสานงานการเคลื่อนย้ายทั้งทางบกและทางอากาศ จะเป็นผู้รับเรื่อง และประสานข้อมูลของผู้บาดเจ็บ วางแผนการดูแลรักษาร่วมกับแพทย์เฉพาะทาง และโรงพยาบาลต้นทาง เพื่อให้ผู้บาดเจ็บได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ตั้งแต่ก่อนเคลื่อนย้ายมายังโรงพยาบาล (Prehospital care) ซึ่งเป็นระบบการดูแลผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุ และระหว่างนำส่งโรงพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การปฐมพยาบาล การรักษาเบื้องต้น ณ จุดเกิดเหตุ การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย เพื่อมารับการรักษาต่อเนื่องเมื่อมาถึงโรงพยาบาลปลายทาง ตลอดจนการประเมินความเสี่ยงในการเดินทาง สภาพการจราจร สภาพเส้นทาง สภาพอากาศ ความพร้อมของบุคลากร และพาหนะ เพื่อเลือกวิธีเคลื่อนย้ายที่เหมาะสม และปลอดภัยต่อผู้ป่วยมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนย้าย ทางบก หรือทางอากาศ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล ซึ่งสภาพการจราจร และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ในการเดินทางจะมีผลอย่างมากต่อความปลอดภัยของผู้ป่วย

นพ.อัญฤทธิ์ แสงจรัสวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพ กล่าวว่า หากมีผู้ป่วยหรือผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกล หรือในช่วงเทศกาลที่มีการจราจรหนาแน่น ศูนย์เคลื่อนย้ายผู้ป่วยบีดีเอ็มเอส (BDMS Medevac Center) มีบริการเฮลิคอปเตอร์ทางการแพทย์ฉุกเฉิน (Sky ICU) ให้บริการรับ-ส่ง คนไข้ฉุกเฉินเพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วนตั้งแต่แรกรับ ด้วยอุปกรณ์การแพทย์ฉุกเฉินขั้นสูง ติดตั้งบนเฮลิคอปเตอร์ตามมาตรฐานนิรภัยการบินขององค์กรการบินระหว่างประเทศ ปฏิบัติงานบนเครื่องด้วยทีมแพทย์ พยาบาลที่มีวุฒิบัตรและความชำนาญ ประสบการณ์จริงด้านเวชศาสตร์การบิน และได้รับการฝึกจนชำนาญการปฏิบัติการบินทางการแพทย์ฉุกเฉิน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บ ให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที รวดเร็ว และปลอดภัย จุดเด่นของเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางอากาศคือ การเข้าถึงพื้นที่ห่างไกล พื้นที่จำกัด เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนตั้งแต่แรกรับ นอกจาก SKY ICU บริการเฮลิคอปเตอร์ทางการแพทย์ฉุกเฉิน ทางรพ.ยังมีบริการรับส่ง-การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยด้วยอากาศยานอื่นๆ อาทิ เครื่องบินไพรเวท หรือเครื่องบินพาณิชย์ เพื่อเดินทางภายในประเทศและต่างประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call center โทร. 1724