-ข่าวพระราชสำนัก

องคมนตรี ลงพื้นที่ “แพร่” ติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริในรัชกาลที่ 9   

            เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2562 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปติดตามความก้าวหน้าโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดแพร่ และตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 56 จังหวัดน่าน

            เวลา 08.30 น. เดินทางถึงโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 56 อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานโดยโรงเรียนจัดการเรียนการสอนหลักสูตรการสะสมหน่วยกิตเตรียมอาชีวศึกษา มีห้องเรียนรวม 30 ห้อง นักเรียนรวม 913 คน โอกาสนี้องคมนตรีมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป

            ต่อมาเดินทางยังโครงการอ่างเก็บน้ำแม่แคมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ติดตามรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการฯ โดยโครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริให้พิจารณาวางโครงการและก่อสร้างอ่างเก็บน้ำตามลำน้ำสาขาต่างๆ ของแม่น้ำยม เพื่อจัดหาน้ำให้ราษฎรหมู่บ้านต่างๆ ในเขตอำเภอสอง และอำเภอเมือง จังหวัดแพร่ เพื่อมีน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภค และเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี ต่อมากรมชลประทาน จึงสนองพระราชดำริโดยจัดสร้างอ่างเก็บน้ำ ขนาดความจุ 8.55 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 โดยสามารถส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตรในฤดูฝนได้ 7,500 ไร่ ในฤดูแล้ง 1,000 ไร่  รวมทั้งสนับสนุนน้ำอุปโภคบริโภคให้แก่ราษฎรในพื้นที่ จำนวน 1,881 ครัวเรือน รวม 5,374 คน

             จากนั้นในช่วงบ่าย เดินทางไปยังตำบลทุ่งแล้ง อำเภอลอง จังหวัดแพร่ เพื่อเยี่ยมชมและรับฟังบรรยายสรุปโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่จอกน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2559 เพื่อช่วยเหลือราษฎรหมู่ที่ 3 , 9 และ 11 ตำบลทุ่งแล้ง อำเภอลอง ซึ่งขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภค หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสนองพระราชดำริ ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดความจุ 570,000 ลูกบาศก์เมตร โดยดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2561 ปัจจุบันสามารถสนับสนุนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคได้ จำนวน 5 หมู่บ้าน 932 ครัวเรือน และส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตร จำนวน 700 ไร่ ในช่วงฤดูฝน และ 200 ไร่ ในช่วงฤดูแล้ง ส่งผลให้เกษตรกรมีน้ำกินน้ำใช้ สามารถทำการเกษตรได้ตลอดปี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น