เทคนิคดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ให้เอี่ยมอ่อง
หากบ้านคือสิ่งที่สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยแล้ว เฟอร์นิเจอร์ก็เปรียบเสมือนเสื้อผ้า ที่แสดงรสนิยม ความชอบ ความหลงใหล ของคนในบ้านหลังนั้น อีกทั้งยังเป็นดังอุปกรณ์สารพัดประโยชน์ ช่วยสร้างความสะดวกสบายให้เจ้าของได้มากมาย ซึ่งเมื่อใดที่เราปล่อยให้เจ้าเฟอร์นิเจอร์หรือเสื้อผ้าประจำบ้านมีฝุ่นหรือคราบสกปรกมาเกาะติดแล้วล่ะก็ บ้านที่ควรสดใสน่าอยู่จะหม่นหมองไปไม่น้อยเลยทีเดียว หรือแย่กว่านั้นจะทำเอาแขกที่มาเยี่ยมเยียนเบือนหน้าหนีอย่างแน่นอน
ดังนั้น เฮเฟเล่ จึงขอจูงมือคนรักเฟอร์นิเจอร์ทุกคน มาดูแลเฟอร์นิเจอร์ของรักสุดหวงให้เอี่ยมอ่อง สวยเนี้ยบ เปล่งประกายวิ้งๆ ให้เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นดูดี น่าใช้ และน่าอยู่ คงความสวยเหมือนใหม่ สร้างความสดใสให้บ้านไปนานแสนนาน
เฟอร์นิเจอร์ไม้ – เริ่มต้นกันที่เฟอร์นิเจอร์ยอดฮิต ที่ไม่ว่าจะยุคไหนๆ ก็เป็นที่นิยมเสมอมา ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้จะทำมาจากไม้ราคาแพง มีสีเนื้อไม้และลายที่สวยงาม แสดงออกถึงฐานะของเจ้าของ แต่ปัจจุบันไม้กลายเป็นวัสดุที่หายาก จึงนิยมหันมาใช้ไม้ประดิษฐ์ทำเฟอร์นิเจอร์แทน แต่ก็ให้ความสวยงามและบรรยากาศแบบธรรมชาติที่ดีไม่แพ้กัน
วิธีการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้
- ใช้ผ้าแห้งเนื้อนุ่มเช็ด หรืออาจจะใช้ผ้าชุบน้ำสะอาด บิดหมาดๆ เช็ดก็ได้
- หากมีคราบสกปรก สามารถใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อ่อนๆ บิดหมาดเช็ดได้ แต่หากคราบฝังแน่น เช็ดออกยาก ให้ใช้ผงฟูผสมน้ำ แล้วใช้แปรงสีฟันชุบ นำไปขัดถู เท่านี้คราบก็ออกแล้ว
- หากเฟอร์นิเจอร์โดนน้ำหรือความชื้น เช่น โดนฝน ให้รีบใช้ผ้าแห้งเช็ด อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจทำให้เฟอร์นิเจอร์บวมพองเสียหายได้ และควรทาสีน้ำมันเคลือบป้องกันไว้หากทำได้
- ถ้ามีคราบไขมันเกาะติด ควรใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำ แล้วใช้ผ้าเนื้อนุ่มชุบบิดหมาด จากนั้นจึงนำไปเช็ดถูบริเวณที่เป็นคราบ
- เพื่อความสะดวก อาจใช้น้ำยาทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะก็ได้ ซึ่งมีขายตามร้านค้าทั่วไป ข้อสำคัญคือ ต้องระมัดระวัง ห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผิวของเฟอร์นิเจอร์เสียหายได้
TIP: ของใช้ในชีวิตประจำวันที่ใกล้ตัว เช่น ครีมทาผิวที่เหลือใช้ นำผ้าชุปผ้าบิดให้หมาด ป้ายครีมแล้วนำไปทาบนพื้นไม้ ช่วยถนอมความเงางาม และกันไม่ให้ฝุ่นมาเกาะอีกด้วย เท่านี้ก็ทำให้ห้องสะอาดมันวาวแถมหอมสดชื่นอีกด้วย
เฟอร์นิเจอร์หนัง – ต่อด้วยอีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่หลายคนชื่นชอบในความสบายอันเป็นจุดขายของเฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้ เฟอร์นิเจอร์หนังจะใช้หนังสังเคราะห์ห่อหุ้มฟองน้ำหรือฟองยางไว้ด้านใน ทำให้เกิดความนุ่มนวลทั้งเวลานั่งหรือนอน อีกทั้งยังมีการเสริมสปริงสร้างแรงยืดหยุ่นให้น่าใช้เพิ่มขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเฟอร์นิเจอร์หนังจะใช้กันทั่วไป เนื่องจากมีความสวยงาม ดูแลง่าย และราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับเฟอร์นิเจอร์ชนิดอื่นๆ
วิธีการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์หนัง
- หากเป็นการทำความสะอาดปกติ ให้ใช้ผ้าเนื้อนุ่มหรือไม้ปัดขนไก่ ปัดฝุ่นละอองออกให้หมด จากนั้นจึงใช้ผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำสะอาดบิดหมาดๆ เช็ดถู
- สำหรับรอยคราบจางๆ ควรใช้น้ำสบู่อ่อนๆ ผสมน้ำ จากนั้นใช้ผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำสบู่ดังกล่าวเช็ดบริเวณที่เป็นคราบ โดยเช็ดให้เบามือ อย่ากดหรือถูแรงๆอย่างเด็ดขาด
- คราบเชื้อราที่เกิดขึ้นกับเฟอร์นิเจอร์หนังนั้น สามารถกำจัดได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูผสมน้ำเช็ดถูบริเวณที่เป็นเชื้อรา แล้วรีบใช้ผ้าแห้งเช็ดให้สะอาดอีกครั้ง
- หากมีคราบฝังแน่นขจัดยาก ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับหนังโดยเฉพาะ ห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดฤทธิ์รุนแรงเด็ดขาด เพราะจะทำลายน้ำมันที่เคลือบอยู่บนหนัง และทำให้หนังเกิดความเสียหายได้
- ไม่ว่าจะใช้น้ำสบู่อ่อนหรือน้ำยาทำความสะอาด ขั้นตอนสุดท้ายอย่าลืมใช้ผ้าชุบน้ำเปล่าเช็ดซ้ำ และใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกครั้งด้วย อย่าปล่อยให้น้ำแห้งเอง เพราะจะทำให้เกิดคราบ
TIP: เฟอร์นิเจอร์หนังที่ไม่ได้ใช้เป็นระยะเวลานาน ควรใช้ผ้าสะอาดคลุมไว้เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกอื่นๆ และหลีกเลี่ยงการปล่อยให้เฟอร์นิเจอร์หนังโดนแดดนานๆ เพราะจะทำให้หนังเกิดความเสียหายได้
เฟอร์นิเจอร์โลหะ – มาถึงเฟอร์นิเจอร์ชนิดสุดท้ายที่แข็งแรงทนทานกว่าเพื่อน เหมาะกับการใช้งานประจำ หรือใช้งานกลางแจ้ง เพราะไม่ต้องดูแลรักษาบ่อย แต่ก็ไม่ควรละเลยจนเกินไป โดยเฉพาะกับเฟอร์นิเจอร์โลหะที่ตั้งไว้กลางแจ้ง ที่ต้องดูแลทุกครั้งเมื่อโดนน้ำ เพราะอาจทำให้เกิดสนิมได้นั่นเอง เฟอร์นิเจอร์โลหะสำหรับตกแต่งจะมีการดัดและการขึ้นรูปเป็นลวดลายที่สวยงาม เหมาะกับผู้ชื่นชอบความแปลกใหม่
วิธีการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์โลหะ
- หากมีฝุ่นละอองเกาะติด ให้ใช้ผ้าเนื้อนุ่มเช็ดหรือไม้ปัดขนไก่ปัดทำความสะอาด
- ถ้าเฟอร์นิเจอร์โดนน้ำ ต้องรีบใช้ผ้าแห้งเช็ดทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะจะเกิดสนิมได้
- หากต้องการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาด สามารถทำได้ แต่ต้องใช้ผ้าเนื้อนุ่มและชุบน้ำบิดให้หมาดที่สุด เมื่อเช็ดเสร็จแล้ว ให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกครั้ง
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง เพราะอาจทำให้พื้นผิวโลหะเกิดความเสียหายได้
- ควรเคลือบพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์โลหะด้วยขี้ผึ้งเคลือบรถ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่ตั้งอยู่กลางแจ้ง ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดสนิมได้
การดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ทั้ง 3 ชนิดนี้เป็นเพียงข้อแนะนำและเคล็ดลับเบื้องต้นเท่านั้น สิ่งที่สำคัญก็คือความใส่ใจที่ต้องดูแลรักษา ‘เป็นประจำ’ อย่าลืมว่าเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นคือเสื้อผ้าของบ้าน หากดูแลดีเฟอร์นิเจอร์ก็จะคงความสวยงาม น่าใช้ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่หากดูแลไม่ดี เฟอร์นิเจอร์ก็จะหมอง เสียหาย อายุการใช้งานก็จะสั้นลง และเปลี่ยนให้บ้านที่ควรจะเป็นที่พักผ่อนที่ดีที่สุด ให้กลายเป็นแค่สิ่งก่อสร้างที่ไม่มีความน่าอยู่เหลืออยู่เลย♥