-commerceEconomicsSME

DITP กางแผนรุกตลาดอีคอมเมิร์ซไต้หวัน เปิดตัว PChome Thai ThaiShopping ผลักดันสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดออนไลน์

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เผยว่าเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา PChome ได้แถลงข่าวเปิดตัว PChome Thai ThaiShopping ณ เมืองไทเป ไต้หวัน โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงผู้บริโภคไต้หวันได้โดยตรง เหมาะกับ SMEs ที่ต้องการขยายโอกาสในการส่งออกสินค้า Made in Thailand ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เข้าสู่ตลาดไต้หวัน รวมถึงผู้ประกอบการที่ยังอยู่ระหว่างหาผู้นำเข้าในไต้หวันและต้องการทดลองตลาด นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้เปิดตัวร้าน TOPTHAI STORE บน PChome จำหน่ายสินค้า BCG ของไทยสอดรับกับนโยบายการผลักดันเศรษฐกิจยุคใหม่ด้วยการค้าออนไลน์ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ในการรุกตลาดต่างประเทศเพื่อรองรับโลกการค้าในยุค New Normal โดยกรมฯ คาดหวังว่าการร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์จะสามารถการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยในการเข้าสู่ตลาดออนไลน์ของไต้หวันได้มากขึ้น

นางสาวกัลยา ลีวงศ์เจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ไต้หวัน กล่าวว่า PChome (https://www.pchome.co.th/tw) มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ในไต้หวัน ปัจจุบันมีสินค้าไทยวางจำหน่ายอยู่กว่า 3,000 รายการ โดย PChome เห็นถึงศักยภาพของสินค้าในการขยายตลาดในไต้หวัน สินค้าไทยจึงเป็นสินค้าต่างชาติประเทศที่ 2 รองจากญี่ปุ่นที่ PChome นำมาวางขายบน platform online ของ PChome โดยสำนักงานฯ มีแผนจะร่วมกับ PChome ในการประชาสัมพันธ์สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางมากยิ่งขึ้นในไต้หวัน ในขณะเดียวกันสำนักงานฯ ยังมีแผนจะร่วมมือกับ PINKOI online marketplace (https://th.pinkoi.com) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมงานคราฟท์และสินค้ามีดีไซน์จาก 18,000 แบรนด์ทั่วโลกจัดสัปดาห์สินค้าดีไซน์ของไทยในช่วงเดียวกับที่สำนักงานฯ จะนำสินค้าไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Creative Expo Taiwan ณ เมืองเกาสง ไต้หวัน ในเดือนสิงหาคมนี้ โดยฐานลูกค้า PINKOI ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่นิยมสินค้าออกแบบ ปัจจุบันมีสินค้าไทยวางขายอยู่บน PINKOI รวมกว่า 3,600 รายการแล้ว และสินค้าไทยเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองรองจากสินค้าญี่ปุ่น เนื่องจากการออกแบบที่มีเอกลักษณ์และมีความเป็นสากล

นอกจากนี้ สำนักงานฯ ยังมีแผนร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทยในการคัดสรรสินค้าไทยที่เป็น Product Champion ของแต่ละภูมิภาคไปจำหน่ายในเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าทางแพลตฟอร์มออนไลน์ของไปรษณีย์ไต้หวัน Chunghwa Post (https://www.postmall.com.tw/searchResult.aspx?search=%E6%B3%B0%E5%9C%8B&rn=-6737) โดยอาศัยจุดเด่นของไปรษณีย์ที่เข้าถึงลูกค้าได้ถึงในระดับชุมชน ความร่วมมือของกรมฯ กับ platform online ในไต้หวันทั้งหมดนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยบุกตลาดการค้าออนไลน์แบบข้ามพรมแดนได้อย่างเข้มแข็ง ขยายการรับรู้สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดไต้หวันอย่างกว้างขวาง และนำไปสู่การขยายตลาดไต้หวันได้อย่างยั่งยืนต่อไป

ตลาดไต้หวันเป็นตลาดที่ผู้บริโภคมีศักยภาพในการซื้อสูง ประกอบกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยการค้าปลีกออนไลน์ของไต้หวันในปี 2564 เติบโตร้อยละ 14.75 จากปีก่อน ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งชาวไต้หวันมีความชื่นชอบในสินค้าของไทยซึ่งได้อานิสงค์มาจากการที่ชาวไต้หวันนิยมมาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับสินค้าไทยในการขยายตัวเข้าสู่ตลาดไต้หวันต่อไป.