-eastern-newsLocal-news

หนุ่มเจ้าของสวนมพะร้าววอนตร.เร่งดำเนินคดีมือเผาวัชพืช จนไฟลามเข้าสวนทรัพย์สินวอดเรียบ

                สระแก้ว (30 มี.ค.2563) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สมาคมนักข่าวนักสื่อสารมวลชนจังหวัดสระแก้วและศูนย์ข่าวสื่อมวลชนอาเซียนสระแก้ว นายภัทรพงศ์ ชัยพิพัฒน์กุล  อายุ 31 ปีอยู่ที่95/13 ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มาร้องขอความเป็นธรรมในกรณีมีไฟไหม้จากสวนข้างๆ ลุกลามมาที่สวนมะพร้าวของตนไม่มีเลขที่ ท้ายหมู่บ้านไทยสามารถ หมู่ 3 ต.บ้านด่าน อ.อรัญประเทศ จ. สระแก้ว ทำให้สวนมะพร้าวและพืชอื่นๆ จำนวน 30 ไร่ ซึ่งกำลังผลิตดอกออกผลแล้ว ได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมถึงระบบน้ำภายในสวนทั้งหมด ได้รับความเสียหายอีกด้วย โดยยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดมาเผาจนเพลิงลุกลามมาที่สวน  เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2563 เวลาประมาณ 16.00 น. และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ ร.ต.อ.นิรันตร์ นามศรีคุณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.อรัญประเทศ เพื่อสืบสวนหามือเผาดำเนินคดี

                จากนั้น นายภัทรพงศ์ ได้นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย พร้อมเรียกร้องผ่านสื่อมวลชนเพื่อให้เร่งรัดตำรวจหาผู้กระทำความผิด และวอนภาครัฐช่วยเหลือเยียวยา แก้ปัญหาให้ด้วย พร้อมกล่าวยืนยันว่า สาเหตุเพลิงไหม้ มาจากการจุดไฟเผาวัชพืชในไร่ของเพื่อนบ้านที่มีพื้นที่ติดกัน สิ่งที่เขาทำ ทำให้คนที่เขาไม่รู้อะไรต้องมารับกรรมไปด้วย มะพร้าวได้รับความเสียหายหลายร้อยต้น คนทำไม่เคยสำนึกถึงใจของเราเลย ที่สวนเราโดนไฟไหม้ สิ่งที่ควรคิดได้แล้วคือการเลิกจุดไฟวัชพืชจะดีกว่า ของเราเสียหายไปหลายอย่าง วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาตัวการมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

                ต่อมา ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องนี้กับ ร.ต.อ.นิรันตร์ นามศรีคุณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.อรัญประเทศ ได้รับคำตอบว่า เนื่องจากเกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.2563 ผู้เสียหายเพิ่งมาแจ้งความกับทางตำรวจพอได้รับแจ้งก็ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปที่ที่เกิดเหตุแล้วแต่ยังไม่ทราบผู้กระทำความผิดในครั้งนี้ทางเราได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบส่วนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป ในขณะนี้พนักงานสอบสวนให้เสียหายนำหลักฐานต่างๆ พร้อมความเสียหายมาให้พนักงานสอบสวนอีกครั้งเพื่อจะได้ขยายผลต่อไป

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดสระแก้วขณะนี้ยังอยู่ในฤดูกาลตัดอ้อยและกำลังอยู่ในระหว่างปรับปรุงพื้นที่จะปลูกมันอาจจะมีการจุดไฟเผาวัชพืชแต่ขาดการดูแลทำให้ไฟไหม้ลุกลามไปไหม้ในไร่ของผู้อื่นจนเกิดความเสียหาย ไปเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีผู้ออกมาให้กำลังใจผู้เสียหายพร้อมกับแนะนำให้ฟ้องร้องดำเนินคดีและเรียกค่าเสียหายกับผู้เผาวัชพืชไร่ข้างเคียง ซึ่งเป็นต้นเหตุ รวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์กรณีการจุดไฟเผาไร่ในหลายๆ พื้นที่ ที่ช่วงนี้มีการลักลอบเผากันทุกวัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้จังหวัดสระแก้ว ได้ออกประกาศกำหนดพื้นที่และมาตรการควบคุมผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง แล้วก็ตาม แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการเผาวัชพืชอยู่  อย่างไรก็ตาม อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลช่วยเหลือเยียวยาเนื่องจากพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายไปกับเปลวเพลิงทั้งหมด และที่สำคัญอยากให้แก้ปัญหาเรื่องการเผาวัชพืชอย่างจริงจังเสียที เพราะเมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นแล้ว ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ