-รอบกรุง

กรมควบคุมโรค แนะ6วิธีแก้ง่วง ขณะขับรถทางไกล ลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงหยุดยาวปีใหม่ 2564

นนทบุรี (29 ธันวาคม 2563) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 31 ธ.ค. 63 – 3 ม.ค. 64 นี้ เป็นช่วงหยุดยาววันขึ้นปีใหม่ 2564 ประชาชนมักจะเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จึงขอเน้นย้ำผู้ที่ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์เพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน ตามโครงการ “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

กรมควบคุมโรค ขอแนะนำวิธีปฏิบัติขับขี่ให้ปลอดภัยในช่วงปีใหม่ 2564 ดังนี้ 1.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดขณะขับรถ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและเพื่อนร่วมทาง 2.ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฏหมายกำหนด 3.ก่อนขับรถทางไกล ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง และง่วงไม่ขับ 4.คาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับรถและสวมหมวกกันน็อคเมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทาง 5.งดการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ 6.ขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และ 7.ตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง

สำหรับ 6 วิธีแก้ง่วงระหว่างเดินทาง ได้แก่ 1.หาเครื่องดื่มช่วยเพิ่มความสดชื่น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มร้อนหรือเย็น ที่ทำให้ตื่นตัวได้เป็นอย่างดี 2.หาของทานเล่นระหว่างขับรถ เช่น ลูกอม หมากฝรั่ง นอกจากจะคลายหิวแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายตื่นตัวอีกด้วย 3.สร้างความสดชื่นด้วยการลดอุณหภูมิ ปรับความเย็นแอร์ลงหรือเร่งพัดลมแรงขึ้น หันเข้าหาตัว หรือลดกระจกลงเพื่อรับอากาศจากภายนอกบ้าง และควรเตรียมผ้าชุบน้ำไว้เช็ดหน้าด้วย 4.เปิดเพลงฟัง จะช่วยสร้างความครื้นเครงและทำให้ตื่นตัวขณะขับรถ และ 5.ขยับร่างกายเปลี่ยนแปลงอิริยาบถ เพราะการขับรถนานๆ จะทำให้มีอาการง่วง การได้ขยับร่างกายจะช่วยลดการเมื่อยล้าได้ 6.ถ้ามีอาการง่วงมาก ให้จอดรถนอนพัก 15 นาที จะทำให้อาการง่วงดีขึ้น

นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดินทางขอให้ประชาชนดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัด โดยการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ไม่ไปในพื้นที่ที่มีผู้คนแออัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคดังกล่าว และขออวยพรให้ประชาชนทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ ไร้อุบัติเหตุ มีสติในการขับรถ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
ข้อมูลจาก : กองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค