-Local-newsnorthern-news

ซีพีเอฟ หนุนน้องๆ ในศูนย์การเรียนรู้ อา โยน อู อ.แม่สอด จ.ตาก บริโภคไข่ไก่เพียงพอ

ในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร หลายโครงการได้รับการสนับสนุนโดยภาคเอกชน หนึ่งในนั้น คือ “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” มีโรงเรียนเป็นแหล่งผลิตอาหารที่ยั่งยืน เพื่อส่งมอบโอกาสในการเข้าถึงโปรตีนคุณภาพให้แก่เด็กและเยาวชนอย่างทั่วถึง

“โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ พ.ศ. 2532 เป็นต้นมา จนถึงปี พ.ศ.2563 เข้าสู่ปีที่ 31 แล้ว มีโรงเรียนทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ 855 โรงเรียน ด้วยความตั้งใจเดียวกัน คือ อยากเห็นเด็กและเยาวชนมีโภชนาการที่ดี เป็นกำลังสำคัญของประเทศ ความร่วมมือโดยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน หอการค้าญี่ปุ่น – กรุงเทพ ฯ (JCCB) และบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) จึงเป็นความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องและยาวนาน

ศูนย์การเรียนรู้ อา โยน อู (Ah Yone Oo) เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของความสำเร็จจากโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ซึ่งซีพีเอฟ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และเครือข่ายพันธมิตร มุ่งมั่นร่วมกันที่จะมีส่วนร่วมสร้างความมั่นคงทางอาหาร

ศูนย์การเรียนรู้อา โยน อู ตั้งอยู่ที่หมู่ 10 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ติดกับชายแดนเมียวดี ประเทศพม่า ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ ก่อตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2548 จนถึงปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 16 แล้ว ศูนย์การเรียนรู้ของเด็กต่างด้าว มีจำนวนนักเรียน 110 คน ครู 7 คน ทั้งหมดเป็นสัญชาติเมียนมา เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ศูนย์เด็กเล็กจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 7(Grade 1-7) ใช้หลักสูตรของพม่าในการเรียนการสอน มีวิชาภาษาไทยเข้าไปเสริม และมีการสอนหลักสูตรการศึกษานอกระบบด้วย (กศน.) โดยมีนักเรียนที่ศึกษาในระบบ กศน.จำนวน 7 คน

นายจ่อซาน ผู้อำนวยการศูนย์การเรียน อา โยน อู กล่าวว่า การเปิดศูนย์การเรียนรู้ อา โยน อู เพื่อให้ลูกหลานของชาวเมียนมาที่อพยพมาอยู่ในประเทศไทยได้รับการศึกษาและรณรงค์ห่างไกลยาเสพติด เริ่มแรกที่มีการเปิดการเรียนการสอน มีเพียงชั้นเด็กเล็กจนถึงประถมศึกษาปีที่ 2 (Gread 2) จากนั้นได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ สนับสนุนค่าเช่าที่ดินที่เปิดสอน อาคารเรียน เงินเดือนครู ฯลฯ ทางศูนย์ฯ สามารถรับนักเรียนได้เพิ่มขึ้น จนถึงปัจจุบันเปิดสอนจนถึง Grade 7 นอกจากหลักสูตรการเรียนการสอนในห้องเรียนแล้ว ทางศูนย์ฯ สนับสนุนให้เด็กๆ เรียนรู้กิจกรรมอื่นๆ อาทิ การเลี้ยงไก่ไข่ การปลูกผักสวนครัว เพื่อที่เด็กๆจะสามารถนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ๆไปใช้ในชีวิตประจำวัน

ครูปีเตอร์ ครูสอนภาษาไทยของศูนย์ ฯ เล่าว่า ศูนย์ฯตั้งบนพื้นที่กว้าง 5-6 ไร่ เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ เมื่อปี 2559 โดยได้รับการสนับสนุนจากซีพีเอฟ สนับสนุนแม่พันธุ๋ไก่ไข่ อุปกรณ์การเลี้ยงไก่ อาหารสัตว์ให้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในปีแรก ปัจจุบัน ศูนย์ฯเลี้ยงไก่ไข่ เข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว จำนวนไก่ที่เลี้ยง 120 ตัว สามารถนำผลผลิตไข่ไก่มาเป็นวัตถุดิบส่งเข้าโครงการอาหารกลางวัน นอกจากทั้งนักเรียนและคุณครู ได้รับประทานไข่ที่สด สะอาด ทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรงแล้ว ยังได้รับความรู้และได้ลงมือปฏิบัติในการเลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งจะเป็นความรู้ที่ติดตัวเด็กๆนำไปใช้ประกอบอาชีพได้ในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภาวะโควิด 19 ระบาด โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ มีประโยชน์อย่างมากทั้งต่อเด็กๆ และชุมชนรอบข้าง โดยที่ศูนย์ฯ นำผลผลิตไข่ไก่ ข้าวสาร และน้ำมัน แจกจ่ายให้นักเรียนและชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนช่วงโควิด และถึงแม้ว่าผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 จะทำให้ศูนย์ฯต้องหยุดการเรียนการสอนไว้ชั่วคราว แต่คุณครูก็ยังไปสอนหนังสือให้นักเรียนตามบ้าน นำไข่ไก่ไปให้นักเรียนได้บริโภคด้วย

เด็กชายชิเหว่ทวย เรียนอยู่ชั้น ป.7 ซึ่งได้รับมอบหมายให้ช่วยรับผิดชอบ ให้น้ำ ให้อาหาร และเก็บไข่ไก่ กล่าวว่า มีความสุขและรู้สึกสนุก ที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ และยังได้ความรู้วิธีการเลี้ยงไก่ที่ถูกต้อง ตั้งใจว่าจะใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเลี้ยงไก่ไข่ ให้เป็นประโยชน์ โตขึ้นอยากเลี้ยงไก่เองที่บ้าน เพื่อเป็นอาชีพ มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว

ด้าน นางสาว เตนเตน เหว่ คุณครูผู้รับผิดชอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่ ของศูนย์ฯ กล่าวว่า ขอบคุณทางซีพีเอฟ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ที่สนับสนุนโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯให้ทางศูนย์การเรียนรู้ ทำให้เด็กๆได้บริโภคไข่ไก่อย่างสม่ำเสมอ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ผู้ปกครองนักเรียนเองได้บริโภคไข่ไก่ที่สด สะอาด ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด เพราะผลผลิตไข่ไก่ส่วนที่เกินจากที่นักเรียนบริโภคเป็นอาหารกลางวัน ทางศูนย์ฯได้นำมาขายให้ผู้ปกครองในราคาแผงละ 80-85 บาท (แผง 30 ฟอง) และทางศูนย์การเรียนรู้ในพื้นที่อื่นๆ ก็เคยมาอุดหนุนไข่ไก่ของศูนย์การเรียนรู้อา โยน อูด้วย