-Healthyสาธารณสุข

สธ.ดึง อสม.-อสส. ขับเคลื่อนงานสุขภาพจิตชุมชนผ่านระบบออนไลน์

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ลานกิจกรรม ชั้น 1 ลิโด้ คอนเน็คท์ สยามสแควร์ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร กรมสุขภาพจิต กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ร่วมแถลงข่าวและลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือการบูรณาการข้อมูลเพื่อคัดกรองและค้นหาผู้มีปัญหาสุขภาพจิตในชุมชน อันเนื่องมาจากโรคระบาดโควิด-19 ที่จัดขึ้นภายใน “งานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ 2563: Working Together สุขภาพจิตไทย ก้าวไปพร้อมกัน”

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า สัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติในปีนี้ กรมสุขภาพจิตได้ใช้ธีม ที่มีชื่อว่า Working Together สุขภาพจิตไทย ก้าวไปพร้อมกัน นั้นคือการสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือด้านสุขภาพจิตกับทุกภาคส่วนในสังคม หนึ่งในความร่วมมือที่สำคัญในวันนี้คือ ความร่วมมือระหว่างกรมสุขภาพจิต กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ในการกระจายองค์ความรู้ ข้อมูล และข่าวสารด้านสุขภาพจิตต่างๆ ลงไปถึงประชาชนในพื้นที่ ผ่านกลไกการทำงานของพี่น้องอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) ทั่วประเทศ

“สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยขณะนี้ ถือว่ามีการควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ซึ่งการทำงานได้เช่นนี้เกิดจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชนและบุคลากรสาธารณสุข โดยเฉพาะหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน ได้แก่ พี่น้อง อสม. และ อสส. ทั่วประเทศ แต่การดูแลเพียงสุขภาพกายอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นั้น ส่งผลกระทบต่อสังคมในรอบด้าน ซึ่งส่งผลกระทบต่อมายังสุขภาพจิตของคนไทยโดยรวม เพราะฉะนั้นการเฝ้าระวังและการรับมือในระดับพื้นที่จึงเป็นช่องทางที่สำคัญที่จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและการสูญเสียจากปัญหาด้านสุขภาพจิตที่จะเกิดขึ้นได้” พญ.พรรณพิมล กล่าว

ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ในปัจจุบันบทบาทของ อสม.และอสส.เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change agents) พฤติกรรมด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนในชุมชน จะต้องได้รับการเสริมสร้างอาวุธทางปัญญา เพื่อสามารถถ่ายทอดความรู้สู่ครอบครัว บุคคลใกล้ชิด และชุมชน เป็นเกราะป้องกันตนเอง และมีส่วนช่วยลดการระบาดของโรคในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาความรู้สาธารณสุขในมิติสุขภาพจิต จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่สามารถช่วยการดำเนินงานให้กับพี่น้อง อสม. และ อสส. ในการฟื้นฟูจิตใจของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้

“การลงนามความร่วมมือ มีวัตถุประสงค์ในการเสริมสร้างความรู้ข่าวสารด้านสุขภาพให้ อสม.และ อสส. มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) ในมิติสุขภาพจิต โดยดำเนินการผ่านแอปพลิเคชั่น “อสม. ออนไลน์” ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ด้านสาธารณสุข รองรับความเป็นสังคมเมือง สังคมผู้สูงอายุ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีให้ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ยินดีส่งเสริมให้ อสม. หรือ อสส.ดำเนินการส่งเสริมสุขภาพจิตและทำให้ระบบสาธารณสุขไทยมีความเข้มแข็งในทุกมิติสุขภาพ การเสริมสร้างศักยภาพในประเด็นสุขภาพจิตให้นักรบเสื้อเทาให้สามารถทำงานได้ อย่างสะดวก คล่องแคล่ว และมีประสิทธิภาพ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการนำพาประเทศก้าวผ่านวิกฤตและเกิดความเข้มแข็งของทุกภาคส่วน” ทพ.อาคมกล่าว

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอไอเอสในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการ Digital Life Service Provider บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปมีส่วนร่วมในการสร้างประโยชน์และคุณค่าให้แก่สังคมและประเทศชาติ และอสม.ออนไลน์ ก็เป็นหนึ่งในนวัตกรรมดิจิทัลที่เกิดจากความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ โดยเริ่มจากการสร้างเครื่องมือติดต่อสื่อสารสำหรับการทำงานให้ผู้ที่ดูแลสุขภาพประชาชนที่ใกล้ชิดที่สุด นั่นก็คือ หน่วยบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ หรือที่เรียกว่า รพ.สต. และ อสม. โดยในช่วงที่โรคโควิดเกิดระบาดทั่วโลกนั้น ส่งผลให้ผู้ได้รับผลกระทบเกิดความผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นความเครียด ซึมเศร้า รวมไปถึงการฆ่าตัวตาย ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

ปัญหาข้างต้น สามารถที่จะบรรเทาและระงับได้ หากทุกฝ่ายสามารถทราบได้อย่างรวดเร็วและทันเวลา จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่างกรมสุขภาพจิต กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ AIS ที่ร่วมกันพัฒนา “ฟีเจอร์คัดกรองสุขภาพจิต” บน อสม.ออนไลน์ เพื่อให้ อสม. ที่ดูแลสุขภาพประชาชนที่ใกล้ชิดที่สุด นำเครื่องมือดังกล่าว ไปทำการคัดกรองประชาชนที่ตนเองดูแล ทำให้ อสม. และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข สามารถทราบสถานะสุขภาพจิตของประชาชนในพื้นที่ได้แบบทันที และสามารถดูแลได้อย่างเหมาะสมในกรณีที่มีความผิดปกติ AIS หวังว่า “ฟีเจอร์คัดกรองสุขภาพจิต” จะเป็นประโยชน์ และช่วยลดปัญหาสุขภาพจิตของประเทศไทยต่อไป