กำลัง3ฝ่ายรวบเขมรขณะลอบเข้าไทยทางช่องทางธรรมชาติ บ้านลูโบ๊ะฆง นราธิวาส

(10พ.ย.63) ภายหลังได้รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่3 บ้านลูโบ๊ะฆง ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ว่ามีกลุ่มชายแปลกหน้าลักลอบข้ามมาจากช่องทางธรรมชาติ ที่หมู่3 บ้านลูโบ๊ะฆง ตำบลปาเสมัส นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลกจึงมอบหมายให้นายพิมล จงรักษ์ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอสุไหงโก-ลก พร้อม อส.และตำรวจ ทหาร ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบชายฉกรรจ์จำนวน 10คน กำลังเตรียมเดินทางออกจากพื้นที่ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างวิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาประมาณ 20นาทีจึงควบคุมตัวทั้งหมดไว้ได้

จากการสอบถาม ทราบว่าทั้งหมดเป็นคนสัญชาติกัมพูชาที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซียโดยลักลอบเข้าประเทศไทยทางเรือบริเวณช่องทางธรรมชาติบ้านลูโบ๊ะฆง และเตรียมเดินทางกลับปลายทางประเทศกัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งสถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายฐานความผิดบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย

ด้านพ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส ระบุ ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่อนุญาตให้บุคคลต่างด้าวทุกสัญชาติเดินทางเข้าประเทศไทย ยกเว้นบุคคลตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (ศบค.) ดังนั้นหากบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายจะถูกส่งฟ้องศาลและดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและเสียค่าปรับก่อนผลักดันกลับประเทศภูมิลำเนา

ทั้งนี้ขอเน้นย้ำว่าการดำเนินการดำเนินมาตรการป้องกันการหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ สิ่งสำคัญคือ เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากประเทศมาเลเซียยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19อย่างต่อเนื่อง โดยหากมีผู้ติดเชื้อเข้ามาภายในประเทศไทยก็จะส่งผลกระทบอย่างหนักกับพื้นที่ จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกคนร่วมเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ทราบหากพบคนไทยในประเทศมาเลเซีย ลักลอบเข้ามาโดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบและกักตัวที่ศูนย์กักกันของรัฐ รวมทั้งบุคคลต่างด้าวทุกสัญชาติที่ลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย

ขอขอบคุณภาพ/ข่าว สวท.สุไหงโก-ลก